top of page
fatty liver.jpg

ไขมันพอกตับจากอาหาร

เป็นภาวะที่ไขมันสะสมในเซลล์ตับมากกว่า 5% โดยไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์  พบได้บ่อยในคนไทยที่กินอาหารมัน หวาน และไม่ค่อยออกกำลังกาย

ไขมันพอกตับแบบไม่ดื่มแอลกอฮอล์ (NAFLD) คืออะไร?

หลายคนเข้าใจว่า โรคไขมันพอกตับ จะเกิดเฉพาะกับคนที่ดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ แต่จริงๆ แล้ว คนที่ไม่ดื่มเลยก็สามารถเป็นได้เช่นกัน ซึ่งโรคนี้เรียกว่า NAFLD (Non-Alcoholic Fatty Liver Disease) หรือ ไขมันพอกตับชนิดไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ และกำลังเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยมากขึ้นในคนไทย

 

เพราะอะไรไม่ดื่มถึงยังเป็นไขมันพอกตับ?
 

คำตอบง่ายๆ ก็คือ "กินหวาน กินมัน แล้วไม่ค่อยขยับตัว"


เมื่อเรากินอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น เครื่องดื่มหวาน ชาเย็น ชานมไข่มุก ขนมเบเกอรี่ หรืออาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด มันหมู หรือฟาสต์ฟู้ด ร่างกายจะเปลี่ยนสารเหล่านี้เป็นพลังงาน แต่ถ้าเราไม่ได้ใช้พลังงานเหล่านั้นออกไป เช่น นั่งทำงานทั้งวัน ไม่ออกกำลังกาย พลังงานส่วนเกินก็จะถูกแปลงเป็น “ไขมัน” และสะสมอยู่ในตับอย่างเงียบๆ

 

ยิ่งถ้าเรามี “พุง” หรือมีน้ำหนักตัวมาก ไขมันก็จะสะสมในช่องท้องและตับมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบในตับโดยไม่รู้ตัว

 

อาการของไขมันพอกตับ

ในระยะแรกของโรคนี้มักไม่แสดงอาการ จึงมักถูกเรียกว่า “ภัยเงียบ”  บางคนอาจรู้สึกเหนื่อยง่าย แน่นบริเวณชายโครงขวา หรืออ่อนเพลียแบบไม่มีสาเหตุ  เมื่อไปตรวจสุขภาพ อาจพบว่าค่าการทำงานของตับ (SGPT, ALT) สูงขึ้น หรืออัลตราซาวด์เจอไขมันแทรกในตับ



ถ้าไม่รีบแก้ จะเป็นหนักได้ถึงขั้นมะเร็งตับ

ไขมันพอกตับหากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล อาจลุกลามกลายเป็น "ตับอักเสบเรื้อรัง" หรือที่เรียกว่า NASH (Nonalcoholic Steatohepatitis) ซึ่งจะทำให้เกิด “พังผืดในตับ” และพัฒนาเป็น “ตับแข็ง” ในที่สุด
ในบางราย ตับที่แข็งเรื้อรังอาจพัฒนาไปเป็น “มะเร็งตับ” ได้ โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะดื้ออินซูลินหรือเป็นเบาหวานร่วมด้วย

 

วิธีดูแลตัวเองให้ห่างไกลไขมันพอกตับ
 

สิ่งที่ดีที่สุดคือ การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เริ่มจากลดอาหารหวานจัด มันจัด อาหารทอด หันมาเลือกกินผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง และควบคุมปริมาณข้าว แป้ง ให้พอดี
 

การออกกำลังกายเป็นประจำ วันละอย่างน้อย 30 นาที เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิค จะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินและลดการสะสมในตับได้อย่างดี


การนอนหลับให้เพียงพอ พักผ่อนให้เหมาะสม ก็ช่วยลดฮอร์โมนความเครียดและภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งเป็นต้นตอของการเกิดไขมันพอกตับ

เสริมอาหารบางชนิด ช่วยตับฟื้นตัวไวขึ้น

สารอาหารบางชนิดมีงานวิจัยสนับสนุนว่า ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในตับและลดการอักเสบ เช่น

  • NMN (Nicotinamide Mononucleotide): กระตุ้น NAD⁺ เพิ่มพลังงานในระดับเซลล์ และช่วยให้การเผาผลาญไขมันในตับดีขึ้น
     

  • L-Glutathione: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทโดยตรงในการปกป้องเซลล์ตับ
     

  • DHM (Dihydromyricetin): จากสมุนไพรจีน มีฤทธิ์ลดไขมันสะสมในตับและลดพิษจากแอลกอฮอล์ในกรณีที่ดื่มเป็นครั้งคราว
     

  • Zinc และวิตามิน B-complex: สนับสนุนการทำงานของเอนไซม์ในตับและการขจัดสารพิษ

 

กลุ่มสารเหล่านี้ถูกรวบรวมไว้ในผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า Heka Blue ที่ช่วยฟื้นฟูตับทั้งจากการดื่มแอลกอฮอล์ และภาวะไขมันพอกตับในคนทั่วไป

✅ สรุปสุดท้าย:

คุณไม่จำเป็นต้องดื่มเหล้าก็เป็นไขมันพอกตับได้  แต่คุณก็สามารถ หยุดพฤติกรรมเสี่ยงวันนี้ เพื่อให้ “ตับ” ได้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งในระยะยาว

Call 

123-456-7890 

Email 

Follow

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram
บัซ เอ็น บาย
88/4 ม.4 คลองสอง
คลองหลวง ปทุมธานี 
12120
qr.png

082-4197445

© 2025 by ทีมงาน Heka Care

bottom of page