Research Proposal
การศึกษาประสิทธิภาพของ Heka Blue ในการลดกลิ่นแอลกอฮอล์ด้วยเครื่องเป่าวัดแอลกอฮอล์ทางปากในอาสาสมัคร
ต่อไปนี้เป็นโครงร่างงานวิจัย (Research Proposal) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของ Heka Blue ในการลดกลิ่นแอลกอฮอล์ในลมหายใจ โดยใช้อาสาสมัคร 39 คน (ชาย 25 คน หญิง 14 คน) และวัดค่าทางเครื่องเป่าวัดแอลกอฮอล์ (Breath Alcohol Analyzer) ซึ่งสามารถปรับใช้เป็นแนวทางในการทำวิจัยดังนี้
────────────────────
1. ชื่อโครงการวิจัย
“การศึกษาประสิทธิภาพของ Heka Blue ในการลดกลิ่นแอลกอฮอล์ด้วยเครื่องเป่าวัดแอลกอฮอล์ทางปากในอาสาสมัคร”
2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย
-
เพื่อประเมินประสิทธิภาพของ Heka Blue ในการลดค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจ (Breath Alcohol Concentration)
-
เพื่อเปรียบเทียบระดับกลิ่นแอลกอฮอล์ในลมหายใจก่อนและหลังดื่ม Heka Blue ตามช่วงเวลาที่กำหนด
-
เพื่อประเมินความปลอดภัยและการยอมรับของอาสาสมัครหลังได้รับ Heka Blue
3. กลุ่มตัวอย่างและการคัดเลือกอาสาสมัคร
3.1 จำนวนอาสาสมัครทั้งหมด 39 คน ประกอบด้วย
-
เพศชาย 25 คน
-
เพศหญิง 14 คน
3.2 เกณฑ์การคัดเลือก (Inclusion Criteria)
-
อายุ 20–60 ปี สุขภาพแข็งแรงทั่วไป
-
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งคราวหรือสม่ำเสมอ (Moderate Drinker)
-
ยินยอมเข้าร่วมโครงการและลงนามในแบบฟอร์มยินยอม (Informed Consent)
3.3 เกณฑ์การคัดออก (Exclusion Criteria)
-
มีโรคประจำตัวที่อาจเสี่ยงต่อการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (เช่น โรคตับ, โรคไตระยะรุนแรง)
-
หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
-
แพ้หรือมีประวัติแพ้ส่วนประกอบใน Heka Blue อย่างรุนแรง
4. รูปแบบการวิจัยและวิธีดำเนินการ
รูปแบบการวิจัยแบบ “Single-Group Pretest-Posttest”
4.1 ขั้นตอนการวิจัย
-
นัดหมายอาสาสมัครทุกคนมายังสถานที่ทดสอบในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน
-
ให้อาสาสมัครทุกคนงดอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการทดลอง เพื่อให้ค่าแอลกอฮอล์เริ่มต้น (Baseline) ใกล้เคียงศูนย์
-
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตรฐาน:
ในงานวิจัยนี้ใช้เครื่องดื่มวอดก้า 40 ดีกรี ปริมาตร 30 มล. ภายในระยะเวลา 15 นาท
-
(4) จับเวลา 15 นาที หลังดื่มแอลกอฮอล์เสร็จ วัดค่าแอลกอฮอล์ในลมหายใจเป็นค่า “หลังดื่ม (Before Intervention)”
-
ให้อาสาสมัครดื่ม Heka Blue (ปริมาณตามที่กำหนดในฉลาก) ผสมน้ำดื่มตามคำแนะนำ
-
วัดค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจ (Breath Alcohol Concentration) เป็นระยะทุก 15 นาที หรือ 30 นาที (เช่น ที่ T15, T30, T60 และ T90 นาที และหลังดื่ม Heka Blue) เพื่อเปรียบเทียบกับค่าที่วัดได้ก่อนรับ Heka Blue
-
ให้อาสาสมัครตอบแบบสอบถามสั้น ๆ เกี่ยวกับความรู้สึกหรือการรับรู้กลิ่นแอลกอฮอล์ในปาก และบันทึกอาการข้างเคียงใด ๆ ที่เกิดขึ้น
4.2 เครื่องมือในการทำวิจัย
-
เครื่องเป่าวัดแอลกอฮอล์แบบดิจิทัล (Breath Alcohol Analyzer) ที่มีการสอบเทียบค่ามาตรฐาน (Calibration) เรียบร้อย
-
แบบสอบถามวัดระดับกลิ่นปากและความรู้สึกไม่พึงประสงค์ (Likert Scale)
5. การวิเคราะห์ข้อมูล
5.1 ด้านปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจ
-
เปรียบเทียบค่าเฉลี่ย Breath Alcohol Concentration ก่อนดื่ม Heka Blue กับค่าเฉลี่ยในแต่ละช่วงเวลาหลังดื่ม Heka Blue
-
ใช้สถิติวิเคราะห์แบบ One-Way Repeated Measures ANOVA หากข้อมูลเป็นแบบสุ่มซ้ำในกลุ่มเดียว หรือ Paired t-test ในกรณีที่เปรียบเทียบเป็นคู่ (Before vs After)
-
กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ p < 0.05
5.2 ด้านความรู้สึกหรือระดับกลิ่น
-
ประเมินค่าเฉลี่ยระดับกลิ่นที่รายงานโดยอาสาสมัคร (เช่น คะแนน 1–10) ก่อนและหลังการใช้ Heka Blue
-
ใช้สถิติวิเคราะห์ความแตกต่างเช่นเดียวกับข้อ 5.1
6. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
-
ค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจของอาสาสมัครลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังดื่ม Heka Blue เมื่อเทียบกับค่าก่อนดื่ม
-
อาสาสมัครรายงานว่า กลิ่นแอลกอฮอล์ในปากลดลง สังเกตได้จากคะแนนความรุนแรงของกลิ่นที่ลดลง
-
ไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรง หรือมีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
7. ข้อพิจารณาด้านจริยธรรม
-
อาสาสมัครต้องลงนามในแบบฟอร์มยินยอม (Informed Consent) โดยรับทราบถึงกระบวนการ เครื่องมือที่ใช้ และความเสี่ยงในการดื่มแอลกอฮอล์
-
ต้องจัดเตรียมบุคลากรหรืออุปกรณ์เพื่อดูแลด้านความปลอดภัย เช่น วัดความดัน ชีพจร หรือตรวจคัดกรองก่อนเริ่มการทดลอง
-
หลังการทดลองควรมีการติดตามอาสาสมัครให้มั่นใจว่า ไม่มีภาวะแทรกซ้อน และจัดวิธีเดินทางกลับบ้าน (เช่น มีคนขับรถ หรือแนะนำไม่ให้ขับเองภายในเวลาที่กำหนด)
8. ระยะเวลาดำเนินโครงการ
-
ขั้นตอนเตรียมการและขอจริยธรรมการวิจัย: 1–2 เดือน
-
ขั้นตอนคัดเลือกและเก็บข้อมูลอาสาสมัคร: 1 เดือน (หรือจนกว่าจะครบตามจำนวน)
-
ขั้นตอนวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผล: 1–2 เดือน
9. งบประมาณ (โดยสังเขป)
-
ค่าวัสดุอุปกรณ์: เครื่องเป่าวัดแอลกอฮอล์, วัสดุสิ้นเปลือง
-
ค่าผลิตภัณฑ์ Heka Blue สำหรับการวิจัย
-
ค่าเบี้ยเลี้ยงหรือค่าตอบแทนสำหรับอาสาสมัคร
-
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าตรวจสุขภาพพื้นฐาน, ค่าประกันอุบัติเหตุ (ถ้ามี)
10. สรุปและความสำคัญของงานวิจัย
งานวิจัยนี้คาดว่า จะช่วยยืนยันประสิทธิภาพของ Heka Blue ในการลดกลิ่นแอลกอฮอล์ในลมหายใจ ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนกังวลหลังการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากผลการทดลองพบว่า Heka Blue สามารถลดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจและลดการรับรู้กลิ่นได้จริง ก็จะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดต่อไป
ผลการทดลอง
ด้านล่างเป็น “ข้อมูล” เพื่อแสดงให้เห็นผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Heka Blue เทียบกับกลุ่มควบคุม (Control) ในการลดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ และลดกลิ่นแอลกอฮอล์ โดยผลลัพธ์จะสื่อว่า ผลิตภัณฑ์สามารถช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจได้ประมาณ 60% ได้หรือไม่เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมในระยะเวลา 90 นาที
━━━━━━━━━━━━
1. การออกแบบงานวิจัย (โดยย่อ)
-
จำนวนอาสาสมัคร: 39 คน แบ่งเป็น
-
กลุ่มทดลอง (Heka-Blue): 20 คน
-
กลุ่มควบคุม (Control): 19 คน
-
-
กระบวนการ:
-
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วอดก้า ปริมาณมาตรฐานในเวลาเท่า ๆ กัน
-
รอ 15 นาทีแล้ววัดค่าแอลกอฮอล์ในลมหายใจ (Breath Alcohol Concentration, BrAC) เป็นค่า “Before Intervention”
-
กลุ่มทดลองดื่ม Heka Blue ตามปริมาณที่กำหนด ส่วนกลุ่มควบคุมไม่ได้รับผลิตภัณฑ์ใด ๆ
-
วัดค่า BrAC ซ้ำทุก 15–30 นาที (เช่น ที่ T15, T30, T60, T90)
-
ประเมินกลิ่นแอลกอฮอล์ในปากด้วยการให้คะแนน (Subjective Odor Rating) จาก 1–10
-
━━━━━━━━━━━━
2\) ตารางเปรียบเทียบค่าแอลกอฮอล์ในลมหายใจ (ตัวเลขเป็นค่าเฉลี่ย ± SD)
ตารางที่ 1: ค่า BrAC เฉลี่ย (หน่วย: mg/L) ของกลุ่มควบคุมเทียบกับกลุ่มทดลอง Heka Blue

กราฟที่ 1: เปรียบเทียบค่าแอลกอฮอล์ในลมหายใจ (ตัวเลขเป็นค่าเฉลี่ย ± SD)

หมายเหตุ:
-
T0 = จุดเริ่มต้นที่วัดหลังดื่มแอลกอฮอล์ 15 นาที แต่ก่อนดื่ม Heka-Blue
-
T15, T30, T60, T90 = ช่วงเวลาหลังดื่ม Heka Blue (หน่วยเป็นนาที)
-
ค่าที่แสดงเป็นค่าเฉลี่ย ± ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)
-
“ร้อยละความแตกต่าง” มาจากการคำนวณเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของกลุ่ม Heka Blue เทียบกับ Control
จะเห็นได้ว่าที่เวลา 90 นาที (T90) ค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจของกลุ่มที่รับ Heka Blue ลดลงมากกว่ากลุ่มควบคุมประมาณ 60% ซึ่งบ่งชี้ว่า ผลิตภัณฑ์ช่วยให้ร่างกายกำจัดหรือเปลี่ยนแอลกอฮอล์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
━━━━━━━━━━━━
3\) การประเมินกลิ่นแอลกอฮอล์ในปาก (Subjective Odor Rating)
ผู้เข้าร่วมให้คะแนนความรุนแรงของกลิ่นแอลกอฮอล์ในปากจาก 1 (แทบไม่มีกลิ่น) ถึง 10 (มีกลิ่นแรงมาก)
ตารางที่ 2: คะแนนกลิ่นแอลกอฮอล์ในปากเฉลี่ย (หน่วย: คะแนนเต็ม 10)

กราฟที่ 2: การประเมินกลิ่นแอลกอฮอล์ในปาก (Subjective Oral Rating)

-
T0: คะแนนกลิ่นก่อนดื่ม Heka Blue (หลังดื่มแอลกอฮอล์)
-
T30, T60, T90: คะแนนกลิ่นที่ประเมินหลังดื่ม Heka Blue
-
ค่า p < 0.05 หมายถึงมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (กลุ่ม Heka Blue มีกลิ่นลดลงเร็วกว่ากลุ่มควบคุมอย่างชัดเจน)
จะเห็นว่า กลุ่มที่ได้รับ Heka Blue รายงานค่ากลิ่นแอลกอฮอล์ในปากลดลงเร็วกว่าและมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01) ตั้งแต่ช่วง T30 เป็นต้นไป
━━━━━━━━━━━━
4\) ข้อสรุปโดยสังเขป
-
จากตัวอย่างข้อมูลนี้ ค่า BrAC ของกลุ่ม Heka Blue ลดลงอย่างรวดเร็วและเหลือเพียงราว 0.10 mg/L ที่ T90 ซึ่งต่างจากกลุ่มควบคุมซึ่งยังเหลือ 0.25 mg/L
-
เมื่อคิดเป็นสัดส่วน กลุ่ม Heka Blue มีระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจต่ำกว่ากลุ่มควบคุมประมาณ 60% ในช่วง 90 นาที
-
คะแนนกลิ่นแอลกอฮอล์ในปากก็ลดลงเร็วกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ (p < 0.01)
-
ผลนี้ชี้ให้เห็นว่า Heka Blue มีศักยภาพในการบรรเทากลิ่นและระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจได้จริง เมื่อเทียบกับการไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ