ตับกับอารมณ์คุณเกี่ยวกันยังไง? นักจิตวิทยาอาจไม่เคยบอกเรื่องนี้!
- น.พ.บรรลือ
- 16 พ.ค.
- ยาว 1 นาที

ตับกับอารมณ์? เรื่องลึกซึ้งที่นักจิตวิทยาอาจมองข้าม!
ใครว่าอารมณ์ของเราขึ้นอยู่กับแค่เรื่องของจิตใจ? คุณอาจแปลกใจที่รู้ว่า "ตับ" อวัยวะสำคัญที่เรารู้จักกันดีในเรื่องการล้างพิษและระบบเผาผลาญ กลับมีความเชื่อมโยงกับ "อารมณ์" ของเราอย่างคาดไม่ถึง!
นี่อาจเป็นความลับที่นักจิตวิทยาบางท่านอาจไม่ได้เจาะลึกถึง แต่แพทย์แผนจีนโบราณรู้เรื่องนี้มานานนับพันปีแล้ว
ความเชื่อมโยงที่ซ่อนอยู่ระหว่างตับกับอารมณ์
ในมุมมองของแพทย์แผนจีน ตับไม่ได้มีหน้าที่แค่ทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการไหลเวียนของ "ชี่" (Qi) หรือพลังงานชีวิต และอารมณ์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความโกรธ, ความหงุดหงิด, และ ความเครียด เชื่อกันว่าเมื่อชี่ของตับไหลเวียนไม่สะดวก หรือตับทำงานไม่สมดุล อารมณ์เหล่านี้ก็จะพลุ่งพล่านและควบคุมได้ยากขึ้น
แม้ว่าวิทยาศาสตร์ตะวันตกอาจไม่ได้อธิบายในเชิงพลังงาน "ชี่" โดยตรง แต่ก็มีงานวิจัยที่เริ่มชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพตับกับภาวะทางจิตใจบางอย่าง เช่น
ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ (NAFLD) กับความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล: มีการศึกษาที่พบความสัมพันธ์ระหว่าง NAFLD กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล แม้ว่ากลไกที่แน่ชัดยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่เชื่อว่าการอักเสบเรื้อรังและภาวะไม่สมดุลของสารเคมีในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับ NAFLD อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตได้ (งานวิจัยเกี่ยวกับ NAFLD and Mental illness)
ผลกระทบของสารพิษต่อระบบประสาทและอารมณ์: ตับมีหน้าที่ในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย หากตับทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สารพิษเหล่านี้อาจสะสมในร่างกายและส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ซึ่งอาจนำไปสู่ความรู้สึกหงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน หรือสมาธิสั้นได้ (งานวิจัยเกี่ยวกับ Hepatic Encephalopathy - แม้จะเป็นภาวะรุนแรง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของความผิดปกติของตับต่อระบบประสาท)
ความเชื่อมโยงระหว่างการอักเสบในร่างกายกับภาวะซึมเศร้า: โรคตับหลายชนิดเกี่ยวข้องกับการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ซึ่งมีการศึกษาที่เชื่อมโยงภาวะการอักเสบกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะซึมเศร้า (งานวิจัยเกี่ยวกับ Inflammation and Depression)
สังเกตสัญญาณเตือนจากทั้งร่างกายและจิตใจ
บางครั้งสัญญาณของปัญหาที่ตับอาจไม่ได้แสดงออกมาในรูปแบบของอาการทางกายภาพที่ชัดเจน แต่อาจมาในรูปแบบของอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น
รู้สึกหงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว: โดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน
เครียดและกังวลมากกว่าปกติ: ควบคุมความรู้สึกเหล่านี้ได้ยาก
อารมณ์แปรปรวน: เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า: แม้จะพักผ่อนเพียงพอแล้ว
หากคุณสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เหล่านี้ร่วมกับอาการที่อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพตับ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย หรือรู้สึกไม่สบายบริเวณใต้ชายโครงขวา การปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ดูแลตับ... ดูแลใจ ไปพร้อมๆ กัน
การดูแลสุขภาพตับจึงอาจเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการมีสุขภาพจิตที่ดี ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ เพื่อดูแลทั้งตับและอารมณ์ของคุณ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนที่มีคุณภาพ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารที่มีไขมันสูง และน้ำตาลมากเกินไป
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยให้ตับทำงานได้ดีในการกำจัดของเสีย
จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์: หรือหลีกเลี่ยงหากทำได้
ออกกำลังกายเป็นประจำ: ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและลดความเครียด
จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม: หาเวลาพักผ่อน ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น โยคะ หรือนั่งสมาธิ
สรุป: ความเชื่อมโยงระหว่างตับกับอารมณ์อาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติม แต่การดูแลสุขภาพตับให้ดี ย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมทั้งร่างกายและจิตใจ การใส่ใจกับอาหารการกิน การดื่ม และการจัดการความเครียด อาจเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดีที่คุณอาจไม่เคยคิดถึงมาก่อนครับ
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพตับหรือภาวะทางอารมณ์ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับคำแนะนำและการวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ
Comments