นอนยังไงก็ไม่หายเพลีย?... อาจไม่ใช่ปัญหาที่เตียง แต่อยู่ที่ 'ตับล้า' – ฟื้นฟูได้ด้วย 5 วิธีธรรมชาติ
- น.พ.บรรลือ
- 11 พ.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 14 พ.ค.

ทำไมนอนเยอะยิ่งเพลีย? ไขความลับ - ตับ คือกุญแจสำคัญ ไม่ใช่แค่เรื่องนอน! ... ปล่อยไว้นาน ตับล้าได้
เคยสงสัยไหม? ... ทำไมนอนครบ 8 ชั่วโมงเต็มอิ่มแล้วยังรู้สึกอ่อนเพลีย เหมือนนอนไม่พอ? ตื่นเช้ามาก็ยังง่วงซึม ต้องพึ่งพากาแฟตลอดวัน หรือแม้แต่วันหยุดที่ตั้งใจจะพักผ่อน กลับกลายเป็น เหนื่อยล้า กว่าเดิม?
หลายคนอาจโทษ หมอน หรือ ที่นอน ที่ไม่ได้คุณภาพ - แต่แท้จริงแล้ว ต้นเหตุของอาการ นอนไม่พอ อ่อนเพลียเรื้อรัง อาจซ่อนลึกกว่านั้น นั่นคือ "ตับ" อวัยวะสำคัญที่ทำงานหนักที่สุดในร่างกาย และมักถูกมองข้าม จนทำให้ตับล้า
ตับเป็นมากกว่าแค่เครื่องกรองของเสีย แต่มันคือ "ศูนย์กลางพลังงาน" ของร่างกาย
ตับ ไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่กำจัดสารพิษในร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือน โรงงานพลังงาน ที่สำคัญ ทำหน้าที่หลากหลาย เช่น
ผลิตพลังงาน: เปลี่ยนอาหารที่เรากินให้เป็นพลังงานเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้
สร้างน้ำดี: ช่วยในการย่อยไขมัน
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ป้องกันภาวะ น้ำตาลในเลือดสูง หรือ น้ำตาลในเลือดต่ำ
สร้างฮอร์โมนสำคัญ: ที่มีผลต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย
หาก ตับล้า ตับอ่อนแอ หรือ ตับทำงานหนักเกินไป จะส่งผลให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายช้าลง ทำให้รู้สึก ไม่มีแรง อ่อนเพลียต่อเนื่อง และหากปล่อยไว้นานวัน อาจกลายเป็นปัญหา อ่อนเพลียเรื้อรัง ได้
นี่คือเหตุผลว่าทำไม... แม้จะนอนเต็มที่ แต่ร่างกายก็ยัง "ไม่สดชื่น"
พฤติกรรมทำร้าย "ตับ" โดยไม่รู้ตัว สาเหตุหลักของอาการอ่อนเพลีย
หลายพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเรา อาจเป็นตัวการทำร้าย สุขภาพตับ โดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น
กินน้ำตาลและแป้งขัดขาวเป็นประจำ: ทำให้ ตับ ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม
ดื่มกาแฟใส่นมข้นหวาน ครีมเทียม และน้ำเชื่อม: รบกวนการทำงานของอินซูลินและเพิ่มภาระให้ ตับ
กินอาหารแปรรูป น้ำมันทอดซ้ำ: เพิ่มความเสี่ยงของภาวะ ไขมันพอกตับ
นอนดึก: ขัดขวางช่วงเวลา ฟื้นฟูตับ ซึ่งเป็นช่วงที่ โกรทฮอร์โมน หลั่งออกมามากที่สุด (ประมาณ 22.00–02.00 น.)
ความเครียดสะสม: กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งส่งผลเสียต่อการเผาผลาญไขมันใน ตับ
พฤติกรรมเหล่านี้อาจดูเหมือนเล็กน้อย แต่เมื่อสะสมไปนานๆ จะทำให้ ตับอ่อนแอ ลงเรื่อยๆ และส่งผลให้เกิดอาการ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ได้
ฟื้นฟู "ตับ" ง่ายๆ ด้วย 5 วิธีธรรมชาติ ลดอาการอ่อนเพลีย
เราสามารถดูแลและฟื้นฟู สุขภาพตับ ได้ด้วยวิธีธรรมชาติง่ายๆ ดังนี้
ลดน้ำตาลและแป้งขัดขาว: เริ่มจากการลดเครื่องดื่มหวาน ขนมปังขาว ข้าวขาว และหันมารับประทาน ข้าวกล้อง มันเทศ ฟักทอง เลือกผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI) เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล เบอร์รี่ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ทำ Intermittent Fasting (IF) อย่างสม่ำเสมอ: การงดอาหาร 14–16 ชั่วโมงต่อวัน ช่วยให้ ตับ ได้พักผ่อนและเข้าสู่กระบวนการ ฟื้นฟู ร่างกายจะดึงไขมันสะสมมาใช้ ลดความเสี่ยงของ ไขมันพอกตับ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เพิ่มผักใบเขียวและไขมันดี: ผักใบเขียวมีคลอโรฟิลล์ช่วยในการ ล้างสารพิษในตับ ไขมันดีจากอะโวคาโด น้ำมันมะกอก ถั่วเปลือกแข็ง ช่วยลดการอักเสบใน ตับ
ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ: ร่างกายที่ขาดน้ำจะขับสารพิษได้ช้าลง การเริ่มต้นวันด้วยน้ำอุ่นผสมมะนาวเล็กน้อย ช่วยกระตุ้นการทำงานของ ตับ และถุงน้ำดี
ออกกำลังกายเบาๆ เป็นประจำ: การเดินเร็ววันละ 30 นาที หรือเล่นโยคะ ช่วยเร่งการเผาผลาญและเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยัง ตับ
"ตับ" แข็งแรง... ชีวิตมีพลัง ไม่ใช่แค่ปราศจากโรค
ตับ ที่ดีไม่ใช่แค่ไม่มีโรค แต่ต้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีพลังงาน และมีความสมดุล เพราะเมื่อ ตับแข็งแรง ระบบต่างๆ ในร่างกายจะกลับมาทำงานได้อย่างมีชีวิตชีวา อาการ อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า และ สมองเบลอ ที่เคยชินก็จะค่อยๆ จางหายไป
Dr. Alejandro Junger กล่าวไว้ว่า
"The liver is the body’s energy bank. The more you nourish it, the more it gives back."
>> ตับเป็นธนาคารสะสมพลังงานของร่างกาย ยิ่งเราบำรุงตับมากเท่าไหร่ ตับยิ่งตอบสนองคืนได้มากกว่า <<
Comments